
สงครามคำนี้ไม่ว่าจะเกิดกับที่ไหนบนโลกใบนี้ต้องบอกว่าส่งผลกระทบถึงกันหมด ไม่ว่าจะมากหรือน้อย หากเป็นแค่เรื่องราวเล็ก คู่กรณีเล็ก ก็อาจจะไม่เกิดปัญหาอะไรมาก แต่ตอนนี้สงครามครั้งใหม่อุบัติขึ้นเป็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งต้องบอกว่าทวีความรุนแรงขึ้นมาเรื่อย จนตอนนี้เริ่มส่งผลกระทบกับมาตรการโต้ตอบกันไปมาแล้ว หนึ่งในนั้นก็คือ สหรัฐอเมริกาออกมาตรการยาแรงด้วยการแบน Huawei (หัวเว่ย) แบรนด์โทรศัพท์มือถือชั้นนำของจีน ทำไมถึงทำแบบนั้น
ความกลัวเรื่องข้อมูล
ตอนนี้โลกของเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุค 5G ซึ่งการจะพัฒนาความเร็วอินเตอร์เน็ตไปถึงตรงนั้นได้ เครื่องมือสื่อสารต้องพร้อมด้วย แล้วตอนนี้เครื่องรับส่งสัญญาณเกี่ยวกับ 5G นั้น แบรนด์หัวเว่ย กลายเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดทางการตลาดไปแล้วด้วยคุณภาพสูง ราคาไม่แพง แต่รัฐบาลจีนได้ออกกฎหมายมาข้อหนึ่งเกี่ยวกับนโยบายว่า บริษัทในจีนจะต้องส่งข้อมูลให้กับทางการจีนด้วย ซึ่งทำให้หลายประเทศกังวลว่าหากใช้สินค้าของหัวเว่ยจะถูกขโมยข้อมูลของประเทศตัวเองไปด้วย (อีกมุมหนึ่งก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่า หัวเว่ย ทำแบบนั้นจริง) เลยทำให้สหรัฐเลือกแบนเพื่อกลัวข้อมูลรั่วไหล
ความกลัวเรื่องเทคโนโลยี
จริงอยู่ว่า จีนนั้น เริ่มต้นการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการสื่อสารหลังจากสหรัฐอเมริกาหลายปี แต่ด้วยความสามารถทางการค้า การยอมเป็นโรงงานผลิต และใช้ทรัพยากรทำให้จีนเองก็ได้รับการถ่ายทอดวิทยาการทางด้านการสื่อสารมาด้วย หรือ บางกรณีก็ครูพักลักจำมาเหมือนกัน จากเดิมที่อยู่ด้านหลังสหรัฐแบบไม่เห็นหลัง แต่ตอนนี้พวกเค้าพัฒนาตัวเองขึ้นมาท้าทายกับสหรัฐได้แล้วทั้งทางด้านยอดขาย และคุณภาพ อย่าลืมว่าหัวเว่ยตอนนี้ยอดขายแซงไอโฟนไปแล้ว รวมถึงหัวเว่ยทำมือถือจอพับได้ออกมาแล้วก่อนไอโฟนเสียอีก หากไม่ทำอะไรเลยบอกเลยอเมริกาอาจจะต้องเป็นผู้ตามในที่สุด
ผู้กล้าหาญ
จากเรื่องข้อมูลต่างๆ ฟ้องให้เห็นถึงความก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดของจีน จึงต้องมีการสกัดกั้นบางอย่างเกิดขึ้น แน่นอนว่าในยุคของประธานาธิบดีคนก่อนอย่าง โอบามา ที่มีทีท่าอ่อนโยน คงจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้แน่นอน อันนี้ต้องยอมรับความกล้าหาญของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กล้าเปิดหมัดแลกกับพี่จีนในยกนี้ อย่างที่บอกหากไม่ทำสหรัฐต้องตามหลัง แต่ใครจะยอมมือเปื้อนเลือด เค้ากลับยอมเลือกทำหน้าที่นั้น
เปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจ
จีน กับสหรัฐอเมริกา นั้นมีการพึ่งพาทางเศรษฐกิจอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้า ส่งออก มูลค่ามากมายหลายล้านเหรียญสหรัฐ เศรษฐกิจสหรัฐตอนนี้บอกตามตรงว่า ทรงกับทรุด พอสมควร การแบนหัวเว่ยแบบนี้มองอีกมุมหนึ่งเป็นการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส หากทำการค้ากับจีนมีปัญหา อาจจะต้องทำให้พวกเค้าเปิดตลาดใหม่เพิ่มเติมทั้งนำเข้า ส่งออก เพื่อกระจายความเสี่ยงให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม สงครามการค้ายังเป็นเพียงแค่ยกสอง ยกสามเท่านั้นเอง ยังมีอีกหลายยกที่ต้องติดตาม
อย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่า Huawei กำลังมาแรงซึ่ง มีมาตรและความแรงของอุปกรณ์เทียบเท่ากับ iphone ในราคาที่แตกต่างกันมา เว็บบาคาร่าออนไลน์ ซึ่งเราสามารถเลือกซื้อได้ในตลอดบ้านเราและอีกไม่ช้าอาจจะเป็นแบรนด์สินค้าที่จะกลายเป็นมหาอำนาจของโลกในไม่ช้า จึงไม่แปลกใจเลยที่อเมริกาจะแบนสินค้ายี่ห้อนี้